สั่งซื้อสินค้าผ่านทางไลน์คลิ๊ก

มารู้จักกับต้นกำเนิดยา pfizer จากอเมริกา

3 ธันวาคม 2563, 16:18 น.

บริษัทยายักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ค้นพบตัวยาในการรักษาอาการน้องชายไม่สู้โดยบังเอิญ ซึ่งต่อมา pfizer ก็กลายเป็นยาที่มีความต้องการสูงสุดในท้องตลาดชนิดหนึ่ง และทำรายได้มหาศาลให้กับ Pfizer ( ไพเซอร์ ) ตั้งแต่วางขายเมื่อ พ.ศ. 2541 จนในปัจจุบันได้เกิดคู่แข่งขันของยาในกลุ่มที่ใช้รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศออกมาอีกหลายชนิด ซึ่งมีลักษณะในการทำงานเหมือนกันคือ การขยายหลอดเลือดที่บริเวณอวัยวะเพศชาย และกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงที่บริเวณนั้นมากขึ้น ส่งผลให้อวัยวะเพศแข็งตัวนั่นเอง โดยวิธีการใช้ยา pfizer มีสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้หลายอย่าง ก่อนตัดสินใจว่ายาชนิดนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ ซึ่งในบทความนี้เรารวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้ให้คุณล้ว

 

pfizer คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง

pfizer เป็นชื่อทางการค้าของยาที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าภาวะ ED โดยชื่อสามัญของตัวยาชนิดนี้ก็คือ “ซิลเดนาฟิลซิเตรต” มีกลไกการทำงานเริ่มต้นจากการที่คุณผู้ชายได้รับการกระตุ้นทางเพศ แล้วร่างกายจะผลิตสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ซีจีเอ็มพี ( cGMP ) ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นให้ผนังหลอดเลือดในอวัยวะเพศชายขยายตัว และควบคุมการไหลเวียนของเลือดในอวัยะเพศชาย โดยในกลไกธรรมชาติร่างกายก็จะมีสาร ฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ( PDE 5  ) ซึ่งมีหน้าที่ทำลายสาร cGMP เพื่อทำให้อวัยวะเพศอ่อนตัวลง

 

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้องชายไม่สู้นั้น ความสมดุลของการหลั่งสารทั้ง 2 ชนิดไม่สมดุลกัน จึงทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ดังนั้นหลักการทำงานของ pfizer ก็คือ ออกฤทธิ์ขัดขวางการทำงานของ PDE 5 และเมื่อสาร cGMP ไม่ถูกทำลาย หลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศก็ขยายตัวได้ต่อไป และเป็นเหตุให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ยาวนานขึ้นอีกนั่นเอง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่ากระบวนการทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลย หากไม่ได้มีการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก่อน ในความหมายก็คือ การใช้ยาไม่ได้ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว โดยไม่มีการเล่าโลมหรือปลุกอารมณ์ก่อน

 

pfizer เม็ดจิ๋วสีฟ้า ราคารุนแรง

เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมองว่าราคาของยา pfizer มีราคาสูงเกินไป จนไม่อยากจ่ายเงินให้คนไข้เพื่อนำไปซื้อยาชนิดนี้ หรืออาจมีการจำกัดสิทธิ์ในการเบิกซื้อยาตัวนี้ เพื่อไม่ให้เปลืองงบประมาณของบริษัทมากจนเกินไป ซึ่งต่อมาจึงมีการยื่นขอต่อองค์การอาหารและยาของสหรัฐ ในการขอผลิตยาซิลเดนาฟิลซิเตรตภายใต้ชื่อทางการค้าอื่น เพื่อเป็นการปรับกลไกราคาเจ้ายาจิ๋วเม็ดสีฟ้าอย่าง pfizer ให้มีราคาถูกลง เมื่อเกิดคู่แข่งขันอื่นในตลาดนั่นเอง

 

ซึ่งในปัจจุบันนี้มีตัวยาในกลุ่มยับยั้ง PDE 5 ออกมาสู้ท้องตลาดอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Vardenafil, Tadalafil และ Avanafil ซึ่งถึงแม้จะเป็นสารออกฤทธิ์คนละชนิดกัน แต่กลไกการทำงานนั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย โดยการที่มีตัวยาหลากหลายออกมาวางจำหน่าย ทำให้ปัจจุบันคุณผู้ชายมีทางเลือกมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งราคาของยายังถูกลงกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่ pfizer เพิ่งออกมาวางจำหน่ายแบบครึ่งต่อครึ่ง

 

สำหรับประเทศไทยก็มียาที่ผลิตเองภายในประเทศ ภายใต้การควบคุมดูแลขององค์การเภสัชกรรม เรียกว่า ซิเดกร้า ( Sidegra ) โดยระบุว่าเป็นยาควบคุม คือต้องได้รับการสั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหาซื้อได้จากร้านออนไลน์บนโลกอินเตอร์เน็ตเช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งยาแต่อย่างใด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีความสะดวกในการหาซื้อมาใช้ได้ง่าย

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับยา มีอะไรบ้าง

ก่อนที่จะตัดสินใจหาซื้อมาใช้กันนั้น คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับยาให้เพียงพอก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าข้อควรระวังของยามีอะไรบ้าง หรือสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนการใช้ยาคืออะไร ซึ่งเราสรุปข้อมูลบางส่วนมาให้ ดังนี้ 

1.      ไม่เท่ากับ ยาปลุกเซ็กส์ สิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับมากที่สุดคือ การคิดว่าวอากร้าจะช่วยเพิ่มอารมณืทางเพศได้ แต่แท้จริงแล้วยาจะออกฤทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศก่อน เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปที่ระบบประสาทให้สั่งการหลั่งสาร cGMP

2.      เป็นยาที่ใช้เฉพาะผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศเท่านั้น มีการรายงานว่ามีการใช้ยาในกลุ่มนักเที่ยวที่ต้องการให้น้องชายอึดยิ่งขึ้น สามารถสู้ศึกได้ยาวนานขึ้น แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับการใช้ยาทุกวันนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ว่าจะมีผลร้ายแรงอย่างไรกับร่างกายหรือไม่ และยังไม่มีรายงานว่าใช้ได้ผลกับผู้หญิง

3.      ข้อมูลทางสถิติของ pfizer ระบุว่ายานี้ได้ผลประมาณ 70 % หรือหมายความว่า ผู้ใช้ยา 7 ใน 10 คนยืนยันว่ายาได้ผลดี โดยปริมาณยาที่แนะนำสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ก็คือ 50 มิลลิกรัม

4.      กินยาครั้งละ 1 เม็ด ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีกิจกรรมบนเตียง โดยตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้ตั้งแต่ 2 – 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน และห้ามใช้ยาเกินวันละหนึ่งครั้ง

5.      การกินยาร่วมกับอาหารที่มีไขมันสูง ยาจะออกฤทธิ์ช้าลง การกินยาโดยใช้น้ำอุ่น ๆ จะสามารถทให้ตัวยาถูกดูดซึมได้ดีกว่า และหลีกเลี่ยงการกินยากับเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด

 

Lifestyle กับ สุขภาพทางเพศ

การใช้ชีวิตในทุก ๆ วันของคุณสามารถส่งผลต่อสุขภาพทางเพศได้เช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ให้ไม่มากวนใจ คุณควรหันมาใส่ใจดูแลและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณ ในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1.      การดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปีส่งผลให้ สมรรถภาพทางเพศลดลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารเคมีที่มีอยู่ในนิโคตินส่งผลต่อความอยากมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

2.      กินอาหารไขมันสูงเป็นประจำจะส่งผลให้หลอดเลือดอุดตัน มีการสูบฉีดเลือดหรือการไหลเวียนเลือดไม่ดี ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศไม่เพียงพอ

3.      ความเครียด โดยทั่วไปเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อด้านอารมณ์เป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับอวัยวะเพศ ให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติหรือสมบูรณ์แบบเดิม ยิ่งไปกว่านั้นอาจส่งผลทำให้ไม่อยากทำกิจกรรมทางเพศอีกด้วย

4.      พักผ่อนน้อย การพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายไม่ได้ซ่อมแซมตัวเองตามที่ควรจะเป็นกลไกการทำงานของร่างกายเกิดการทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ระบบการทำงานเกี่ยวกับกลไกการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ก็จะทำได้ไม่สมบูรณ์

5.      ไม่ออกกำลังกาย การใช้ชีวิตแบบติดโต๊ะทำงานตลอดเวลา หรือไม่มีโอกาสในการออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญไม่ดี การสูบฉีดโลหิตไม่ทั่วถึง รวมไปถึงกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เมื่อมีกิจกรรมทางเพศ จึงทำให้คุณเหนื่อยง่าย และไม่สามารถใช้เวลาได้นานตามที่ต้องการ

เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของคุณและปรับสมดุลสุขภาพทางเพศให้สุขยิ่งขึ้น การหมั่นดูแลร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้คุณเกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น สามารถอิ่มเอมกับการบรรเลงเพลงรักได้มากขึ้น เพราะการทำกิจกรรมทางเพศใช้พลังงานมากกว่าที่คุณคิด รวมไปถึงใช้กล้ามเนื้อหลายมัด การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ จะช่วยทำให้คุณออกศึกได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่าง pfizer และแน่นอนว่าจะสร้างความประทับใจให้กับคู่รักของคุณด้วยเช่นกัน

 

จบลงแล้วสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของยาที่ชื่อว่า pfizer ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีของบรรดาท่านชายทั้งหลายที่ประสบปัญหาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ถือว่าเป็นไอเท็มฟ้าประทานเมื่อสมัย 20 ปีที่แล้ว ที่เข้ามาช่วยให้ท่านชายกลับมามีความสุขกับเรื่องกิจกรรมบนเตียงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในปัจจุบันนี้เริ่มมีทางเลือกอื่นเข้ามา ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่คุณต้องการ

ข่าวและบทความ
มีหลายคนที่ต้องประสบกับปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จนกลายเป็นปัญหาในชีวิตคู่ จนทำให้ต้องห...อ่านต่อ
การใช้ยาอาหารเสริมชายในการแก้ปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวนั้น ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที...อ่านต่อ
ปัจจุบันสภาวะแวดล้อม หรือเหตุปัจจัยต่างๆที่อยู่รอบตัว อาจส่งผลกระทบให้กับสภาวะจิตใจและร่าง...อ่านต่อ
เปิดทำการ
สั่งซื้อสินค้า

จันทร์ - อาทิตย์

09.00 - 18.00 น.

อาหารเสริมโอ @copy 2020 Copy right reserve by O-officialthailand.com